17.8.53

นาฬิกาทราย


ชีวิต คือนาฬิกาทรายที่มองไม่เห็น
มันค่อยๆ ร่วงหล่น ทีละน้อย
นับตั้งแต่เราอุบัติขึ้น

เช่นเดียวกัน
ปริมาณทรายของแต่ละคน
ย่อมไม่เท่ากัน

หาเราเขย่าชีวิต
ทราย...
...ย่อมร่วงเร็ว

จะเป็นอย่างไร
หากทรายของเรา
หมดลงวันนี้

จะเป็นอย่างไร
หากทรายของเรา
ไม่มีเหลือ

เราฆ่าเวลา
อย่างไร้ค่า...หรือเปล่า

ก่อนเม็ดทรายสุดท้าย
จะหล่นลง
เราทำอะไรที่ "อยาก" ทำหรือยัง

เพราะตลอดเวลา
เรามักเสียเวลาไปกับ
เรื่องที่ "ควร" ทำ


Read more >>

2.8.53

รวดเร็ว-แช่มช้า


ณ ห้วงเวลาปัจจุบัน
สังคมสับสนวุ่นวาย
ทุกชีวิตต่างยื้อแย่งแข่งขัน
ทุกวันเราวิ่ง...วิ่ง ด้วยความรวดเร็ว
ราวกับกลัวว่า
...จะตกขอบโลกหากเชื่องช้า

สิ่งเหล่านี้
ทำให้เราไม่เคยมองเห็น

ความงดงาม

ที่ซ่อนอยู่ตาม...รายทาง

ทำให้เราหลงลืม

ความแตกต่าง

ที่ซ่อนอยู่ตาม...ซอกซอย

ทำให้เราละเลย

ความจริง

ที่ซ่อนอยู่ตาม...หลืบมุม

ของหัวใจ

จนกระทั่ง...ในที่สุด
เราจำตัวเอง
ไม่ได้
อีกเลย...

หากเราลองเดิน
ช้า ช้า และ ช้า
จะพบว่า
ระหว่างทาง
มีรายละเอียด...ที่น่าสนใจ
มันวางอยู่ตรงนั้น มาเนิ่นนาน
แต่เรา...ไม่เคยมองเห็น

เพราะ
เราบรรจงปิดตาตัวเอง
Read more >>

22.5.53

สัตว์นรก


สัตว์นรก

ทะเลเพลิงผลาญเผาลำเนาโศก
สะท้านโลกสะเทือนใจไทยทั้งผอง
แลควันคว้างกลางเวหาน้ำตานอง
ฟ้าสีทองผ่องอำไพไยมืดมน
สัตว์นรกเยื้องย่างกร่างกันทั่ว
แต่ละตัวเหี้ยนกระหายคล้ายสับสน
เหมือนผีร้ายสิงใจมิใช่คน
เป็นจักรกลไร้ชีวิตคิดตรึกตรอง
ก่อการร้ายจราจลอลหม่าน
มันเผาบ้านผลาญเมืองเรื่องสยอง
แลเปลวไฟแล้วก้มหน้าน้ำตานอง
ต้องทนมองเพลิงร้อนบ่อนทำลาย
ปล้นสะดมภ์คลุ้มคลั่งดั่งโจรป่า
มุ่งเข่นฆ่าเรื่อยไปไร้จุดหมาย
ประชาชนเสียขวัญอันตราย
เป็นฝันร้ายหลอนหลอกตอกสังคม
หวังพวกใจใฝ่ระยำกรรมตามติด
หวังคนผิดรับโทษทัณฑ์อันสาสม
หวังเชื้อร้ายเลิกสร้างทุกข์ปลุกระดม
หวังแกนนำช้ำตรมจนตรอมใจ
ร่วมเยียวยาฟื้นฟูกู้วิกฤติ
ร่วมชี้ทางคนหลงผิดจนคิดได้
ร่วมขจัดเหลือบประเทศก่อเภทภัย
ร่วมปกชาติป้องไทยให้ยั่งยืน


....................................
ร่วมไว้อาลัยแด่ประเทศไทยครับ
รอเวลาผ่านเหตุการณ์ไปสองสามวัน
จนความคิดตกตะกอนออกมาในรูปนี้
ชอบไม่ชอบอย่างไรวิจารณ์กันได้นะครับ
Read more >>

18.5.53

ขุนเขาในเงาน้ำ






ขุนเขาในเงาน้ำ


ดอยสุเทพแข็งแรงแหล่งขุนเขา
พินิจเงาผ่านอ่างแก้วแล้วสงสัย
ณ ผืนน้ำภาพยอดเขาอ่อนละไม
ความยิ่งใหญ่กลับกลายคล้ายอ่อนโยน

คือ หน้ากากบังความจริงสิ่งเที่ยงแท้
คือ พักตราอ่อนแอแพ้หัวโขน
คือ ผ้าขาวรายล้อมย้อมสีโคลน
คือ ทโมนเล่นไปใช่ตัวเรา

ยิ้มสดใสแต่ข้างในใจร้องไห้
รู้มากมายแต่ข้างในใจโง่เขลา
เหมือนสุขสมแต่ข้างในใจมืดเทา
ไร้ความเศร้าแต่ข้างในใจทุกข์ทน

เห็นเงาตัวสงสัยใครกันนั่น
สิ่งใดฝันหรือจริงยิ่งสับสน
เราเกิดมาทำไมในร่างคน
ตอบตัวตนไม่ได้ไร้ปัญญา

ง่วนงมเข็มในสมุทรสุดยากยิ่ง
แต่ความจริงจนใจหากใฝ่หา
ใครคือเราเราคือใครในโลกา
วิสัชนาสิ้นชีพไปไป่เจอะเจอ...


Read more >>

เรื่องสั้น : ปีศาจ



ปีศาจ

-1-

นายสมนึกค่อยๆ เยื้องย่างออกจากที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งถือได้ว่าสวยที่สุดในแถบนี้ ด้วยอาณาเขตเนินสูงติดภูเขา แบ่งเขตแนวจากถนนสาธารณะด้วยลำห้วยธรรมชาติ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีร่มรื่น อากาศเย็นสบาย ใครก็ตามที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนดินแดนแห่งนี้แล้ว ต้องอยากกลับมาทุกคน ยกเว้นนายสมนึกผู้กำลังก้าวเดินบนถนนคนนี้

-2-

หลังจากวันนี้ผมคงจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก ในเมื่อผืนดินแห่งนี้ไม่ได้เป็นของผมอีกต่อไป ที่ที่เป็นอดีต เป็นความฝัน และเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อมอบให้ผมเมื่อห้าปีก่อนหลังจากไปชั่วนิรันดร์ จากนี้มันคงกลายสภาพเป็นรีสอร์ทหรูตามเจตนารมณ์ของเจ้าของคนใหม่ อีกไม่นานหน้าตาของมันคงเปลี่ยนไปจนไม่คุ้นเคยกับคนหน้าเก่าอย่างผม หึ! ผมคงทำได้แค่หัวเราะในลำคอสมน้ำหน้าตัวเองและยอมรับในโชคชะตา ทั้งๆ ที่ผมก็สู้อย่างเต็มที่แล้ว การต่อสู้ระหว่างธรรมชาติกับทุนนิยมได้สิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงของสิ่งแรก

สมัยยังเป็นเด็ก ที่ดินแถบนี้มีแต่เรือกสวนไร่นา ชาวบ้านพึ่งพาอาศัยกันตามวิถีชนบท พ่อปลูกพืชผักผลไม้และสมุนไพรไว้ในที่ดินของเรามากมายหลายชนิดแต่ไม่ได้ขาย พ่อบอกว่าเราปลูกอย่างละนิดละหน่อยเพื่อเอาไว้กินกันเองในครอบครัว จะได้ไม่ต้องไปซื้อให้สิ้นเปลืองเงิน ส่วนที่เหลือก็แบ่งให้เพื่อนบ้าน พ่อเป็นครูผู้ใช้ชีวิตอย่างสมถะ เป็นพ่อที่ห่วงใยลูก เป็นที่รักของทุกคน ผมเลยพลอยได้รับความเอ็นดูจากชาวบ้านไปด้วย

ในระหว่างที่ผมไปเรียนปริญญาตรีที่กรุงเทพ พ่อก็เกษียณอายุราชการพอดี ครั้งหนึ่งที่กลับมาเยี่ยมพ่อ ผมสังเกตว่าชาวบ้านหายหน้ากันไปหมด ที่ดินแถบนี้เหมือนกำลังมีการเปลี่ยนแปลงกันครั้งใหญ่ ยกเว้นเพียงบ้านของเรา พ่อเฉลยให้ผมสิ้นความสงสัยว่า ช่วงนี้ตลาดที่ดินกำลังไปได้ดี ชาวบ้านชาวช่องเขาก็เลยขายให้นายทุนแล้วย้ายไปตั้งรกรากที่อื่นกันหมด ได้กันไปไร่ละแสนสองแสน จริงๆ แล้วมีนายทุนมาติดต่อขอซื้อที่ดินของเราด้วย แต่พ่อปฏิเสธไป พ่อรักที่ดินผืนนี้มาก และที่สำคัญเงินบำนาญกับผลผลิตของเราก็ทำให้พ่ออยู่ได้สบายยามบั้นปลายชีวิตตามที่ได้วางแผนเอาไว้ ครั้งนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าโชคดีมากที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อ

ขณะที่เท้าทั้งสองข้างทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ อย่างสมดุล หัวผมกลับวุ่นวายด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่ปะทะกันอย่างไม่ยอมลดละ ถ้าพ่อยังอยู่จะตำหนิไหมว่าผมรักษาสมบัติของท่านไว้ไม่ได้ ท่านจะยกโทษให้ผมไหม แต่จะทำอย่างไรได้ ถ้าผมไม่ทำเช่นนี้ สิ่งที่จะต้องสูญเสียอาจหมายถึงสวัสดิภาพทางร่างกายหรือไม่ก็เป็นลมหายใจที่มีค่าของผม หวังว่าพ่อคงจะเข้าใจในการตัดสินใจของผม

เสียงบีบแตรไล่หลังมา รถเก๋งคันงามค่อยๆ จอดเทียบข้างผม กระจกเลื่อนลงช้าๆ พร้อมไอเย็นที่แผ่ซ่านออกมาตัดกับความร้อนจากดวงกลมๆ บนฟ้า

อาสมนึก ขึ้นมาๆ เดี๋ยวอั๊วะให้คนขับรถวนไปส่งในเมืองเสียงชายไทยเชื้อสายจีนวัยกลางคนแสดงน้ำใจต่อผมอย่างเป็นมิตร

มาๆไม่ต้องเกรงใจ คนกันเองน่า เสียงเชิญชวนต่อเนื่องตอบสนองต่อความนิ่งอึ้งของผม

ไม่เป็นไรเฮียเหมา ขอบคุณมากครับ ผมอยากจะเดินดูอะไรไปเรื่อยๆ น่ะครับ อีกหน่อยคงไม่ได้มาแถวนี้อีกแล้วเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ หลุดออกจากปากของผม ทั้งที่ใจคิดอีกอย่าง

ตามใจๆ โชคดีแล้วกันอาสมนึก ว่างเมื่อไหร่ก็แวะมาเที่ยวนะ ถ้ารีสอร์ทเสร็จอั๊วะให้ลื้อพักฟรีเลย มีรอยยิ้มเล็กน้อยตามหลังประโยคสุดท้าย

พาหนะของคนรวยเคลื่อนที่จากไปอย่างรวดเร็ว มันไม่เพียงแต่ทิ้งผมไว้กับความสวยงามของธรรมชาติรอบตัวเท่านั้น หากแต่ยังหอบเอาฝุ่นผงไร้ค่าจากพื้นถนนเข้ามารบกวนอวัยวะเบื้องบนที่ใช้ในการมองเห็นอีกด้วย

ระยำเอ๊ย!

ปากผมทำงานพร้อมกับมือทั้งสองที่ขยี้ตา หยาดน้ำค่อยๆ เอ่อล้นไหลออกมา เพื่อชำระล้างสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้ระคายเคืองตามกลไกอัตโนมัติอันน่าทึ่งของร่างกาย...เปล่าครับ คำสบถเมื่อสักครู่ มิได้หมายถึงสิ่งไร้ชีวิตเล็กๆ เหล่านั้น แต่หมายถึงมัน

ไอ้ปีศาจ


-3-

เสียงเพลงลูกทุ่งบรรเลงขับกล่อมอย่างนุ่มนวล ภาพทิวทัศน์เคลื่อนไปเรื่อยๆผ่านกระจกใส ช่างลงตัวกับเนื้อหาของเพลงเหมือนมีผู้จัดเตรียมไว้ อากาศสังเคราะห์ไหลออกมาจากช่องทางสร้างความเย็นสบายตามหน้าที่ เบาะหนังแท้สีครีมรองรับสัมผัสทุกสัดส่วนพอดิบพอดี พาหนะไร้วิญญาณที่มีค่ามากกว่าชีวิตบางคนกำลังมุ่งหน้าไปอย่างมีจุดหมาย

เพลงอะไรเนี่ย เสียงสนทนาหลุดออกมาจากปากเสี่ยเหมา เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินคนใหม่

คนขับรถรีบเอื้อมมือหมายจะกดปุ่มเพื่อให้เครื่องเล่นคืนแผ่นเพลงดังกล่าวออกมา เขาลืมเปลี่ยนอัลบั้มเป็นเพลงจีนอย่างที่เจ้านายชอบก่อนที่จะรับเสี่ยขึ้นรถมา

ไม่ต้องๆ เพลงของลื้อฟังแล้วก็เพราะดีนี่หว่า เสี่ยเหมากล่าวอย่างอารมณ์ดี นาทีนี้ไม่มีอะไรจะสามารถทำให้นักธุรกิจอย่างเขาต้องหงุดหงิด

เพลงนี้อมตะเลยครับเสี่ย ผมฟังตั้งแต่เด็กๆ แล้ว คนขับรถรีบตอบ ในใจโล่งอกที่ไม่ถูกด่าเพราะตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ทำหน้าที่นี้ เขารู้ดีว่าเสี่ยเหมาเกลียดเพลงลูกทุ่งพอๆ กับความจน

ไอ้นั่นมันหยิ่งพอตัวเลยนะ ปล่อยให้มันเดินบ้าไปคนเดียวก็ดีเหมือนกัน เสี่ยเหมาหมายความถึงผู้ชายที่ปฏิเสธคำเชื้อเชิญของเขาเมื่อสักครู่

เสี่ยโชคดีมากเลยนะครับ ที่ดินสวยๆแบบนั้น อยู่ๆก็มาเสนอขายราคาถูก แปลกคนจริงๆ ผมจำได้ว่าเสี่ยติดต่อขอซื้อตั้งหลายครั้งแล้ว ให้ราคาดีกว่านี้ตั้งเยอะ มันไม่เห็นสนใจจะขายเลย

อั๊วะก็ไม่นึกว่าบทจะง่ายมันก็ง่ายจริงๆ แต่ก็อย่างว่า อะไรที่อั๊วะอยากได้ ก็ต้องได้

ไม่รู้ว่าร้อนเงินมาจากไหนนะครับ ถึงรีบขายขนาดนี้ ตอนนั้นดูหน้าตามันก็แปลกๆ อย่างกับถูกรุมกระทืบมา คนขับรถแสดงความสงสัยอย่างแสนซื่อ ในขณะที่สายตาใส่ใจในเส้นทางที่ดูเหมือนงูยักษ์เบื้องหน้า

มันคงไปเหยียบตีนใครเค้ามั้ง ยิ้มเล็กๆ ปรากฎที่มุมปาก


-4-

การที่ผมสบายอย่างทุกวันนี้มันไม่ใช่ง่ายๆ กว่าจะผ่านความยากลำบากมาได้ก็ต้องใช้ความพยายามมาไม่น้อย ปากกัดตีนถีบขนาดไหนไม่มีใครรู้หรอก ผมไม่ได้เกิดมามีพร้อมเหมือนพวกเด็กๆมือเติบที่ใช้เงินพ่อแม่อย่างสนุกสนานในสมัยนี้ ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จต้องขยัน อดทน หนักเอาเบาสู้ ที่สำคัญต้องฉลาด

กว่าสองปีแล้วนับจากเข้ามาเห็นที่ดินแปลงนี้ ตั้งแต่ทำธุรกิจรีสอร์ทมาทั่วประเทศ ผมชอบที่นี่มากที่สุด ดูลู่ทางแล้วน่าลงทุน กว่าจะหาทางติดต่อเจ้าของได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ยังจำได้ดีถึงคำตอบแรกที่ได้ยินผ่านปลายสายโทรศัพท์ นายสมนึกผู้ปฏิเสธความต้องการของผม

ขอโทษครับ ที่ดินของผมไม่ได้มีไว้ขาย

แปดล้านกับที่ดินสิบไร่ไม่พอ จริงอยู่ผมกดราคาพอสมควรแต่ก็สูงกว่าราคาประเมินจากราชการ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะเก็บที่ไว้บูชาอะไร ตัวก็ย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ก็โทรมเปล่าๆ คงจะเล่นแง่เรียกราคา กะฟันเต็มที่ จากการตัดบทของมันฟังก็รู้ว่ามีการศึกษา ฉลาดพอสมควร คงไม่ใช่เหยื่อที่เคี้ยวง่ายๆ

เอาเงินสิบล้านของคุณไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่านะครับ

มันเป็นใครถึงกล้ามาสั่งสอนคนอย่างผม เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมากับข้อเสนอใหม่ ไม่ได้ช่วยให้มันเปลี่ยนใจเลย ท่าทางจะเขี้ยวกว่าที่คิด ราคานี้ไม่สามารถกระตุ้นต่อมความโลภของมันอย่างเพียงพอ รอไปสักช่วงหนึ่งก็แล้วกัน เผื่อมันจะคิดใหม่

ลื้อสบายเลยนะถ้ามีเงินสิบสองล้าน อีกอย่างลื้อก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ จะเก็บเอาไว้ทำไมให้เสียภาษีฟรีๆส่วนหนึ่งในบทสนทนาของผมหลังจากเวลาผ่านไปอีกหกเดือน สิ่งที่ได้รับกลับมายังคงเป็นความเพิกเฉยต่อข้อเสนอ มันบอกว่าเป็นสมบัติของพ่อไม่อยากขาย น้ำเน่า! จะเก็บไว้รอให้พ่อมันฟื้นขึ้นมาอยู่ใหม่หรือไง แค่อาชีพพนักงานบริษัทกระจอกๆ ยังกล้าปฏิเสธเม็ดเงินที่ชาตินี้คนอย่างมันไม่มีทางได้จับ ได้เห็นดีกันแน่

ไม่กี่เดือนเลื่อนผ่าน มันก็ย้ายตัวเองกลับมาอาศัยในผืนดินเป้าหมายของผม ตอนแรกนึกว่ามันมาพักผ่อนชั่วคราว ที่ไหนได้ มันขนข้าวของมาหมดพร้อมลาออกจากบริษัทคงจะมาอยู่ถาวร ไม่รู้ว่าอยู่ที่นี่มันจะทำงานอะไร ผมได้เข้าไปคุยกับมันแบบเห็นหน้ากันเป็นครั้งแรกพร้อมข้อเสนอเพิ่มอีกสามล้าน แต่ถูกมันตอกกลับมาอย่างเจ็บแสบ

เงินคุณซื้อผมไม่ได้หรอก

ไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ หรือแฝงนัยที่ซ่อนอยู่ว่า

ถ้าไม่มากพอ

แต่ถึงอย่างไรผมคงเต้นตามมันไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว รีสอร์ทไม่ได้ต้องการแค่ที่ดินเท่านั้น ไหนจะต้องลงทุนเรื่องอื่นๆ อีก ไพ่ใบสุดท้ายที่ผมงัดขึ้นมาสู้กับมันอีกครั้งคือเงินสิบแปดล้านกับการเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจ ไม่รู้ว่าผมต้องการพื้นที่แปลงนี้มากขนาดนั้นหรือเพียงต้องการแค่จะเอาชนะมัน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความผิดหวังจากนาย... ไม่สิ ไอ้สมนึกผู้ปฏิเสธอำนาจเงินอย่างเด็ดขาด

สองสัปดาห์ก่อนขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรบางอย่าง เกือบหนึ่งปีที่ผมไม่ได้ติดต่อกับมัน ใช่ว่าผมยอมแพ้ เพียงแต่เมื่อเอาสมองตรองดูแล้ว ไม่คุ้มเลยถ้าผมต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเอาชนะมัน มีทำเลอีกเยอะที่จะสามารถต่อยอดความร่ำรวยและตอบสนองความต้องการของผม ปล่อยให้มันใช้ชีวิตอย่างสมถะของมัน ใจจริงผมก็อดชื่นชมในความแน่วแน่ของมันไม่ได้ แต่อยู่ๆ มันก็โทรศัพท์มาว่าต้องการพบกับผมโดยด่วน

หลังจากที่เลขาสาวออกไปไม่นาน มันก็พาร่างสะบักสะบอมเต็มไปด้วยบาดแผลเข้ามาในห้องทำงาน แล้วยกมือไหว้ผมเป็นครั้งแรก มืออ่อนตีนอ่อนกว่าเดิมเยอะ

นั่งสิ ไปโดนอะไรมาล่ะ คำถามแรกของผมเกิดขึ้นหลังจากเห็นสภาพของมัน

ไม่มีอะไรครับ อุบัติเหตุนิดหน่อย มันตอแหลด้วยความสุภาพ

อืม...แล้วมีธุระอะไรกับอั๊วะหรืออาสมนึก คำถามถัดมาหลุดออกไปเมื่อมันหย่อนตัวลงบนเก้าอี้เรียบร้อย จริงๆแล้วผมถามไปอย่างนั้นเองเพราะรู้จุดประสงค์ของมันดี

ผมอยากขายที่แล้วครับเฮียเหมา เสียงแหบแห้งจากปากคล้ายพญาครุฑ ดวงตาภายใต้เปลือกบวมเขียวคล้ำมองต่ำ ความจองหองเมื่อครั้งก่อนที่เคยเห็นอันตรธานหายไป

เท่าไหร่ ผมกล่าวกลุ่มคำสั้นๆ ในขณะที่หัวประเมินสถานการณ์

สิบล้านครับ เสียงมันตะกุกตะกักคล้ายไม่มั่นใจ

ห้าล้าน

เฮียครับ ผมขอ...

ลื้อไม่พอใจก็ไม่ต้องขาย เงินฮั๊วะมีอยู่แค่นี้เพราะเอาไปลงทุนที่อื่นหมดแล้ว ตอนนั้นอั๊วะจะซื้อก็ไม่ขาย พอไม่อยากได้ก็กลับมาเสนอ ว่าไง ผมตัดบทและยื่นคำขาด ในใจรู้สึกสนุกกับเกมธุรกิจที่เหนือกว่า

ครับเฮีย ง่ายเหมือนที่คิดไว้ตั้งแต่เห็นมันเข้ามาในห้อง

นึกถึงเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ผมเข้าไปดูที่ดินตามโฉนดให้เรียบร้อย เห็นหน้าของไอ้สมนึกแล้วนึกสมน้ำหน้ามัน เสร็จธุระแล้วก็เก็บข้าวของเดินจ๋อยออกไป แต่ก็แอบสงสารเล็กน้อยเลยอาสาจะช่วยส่งสมบัติอื่นๆ ของมันตามไปให้ที่หลังถือว่าเอาบุญ


-5-

ชายผู้เพิ่งสูญเสียผืนดินของตัวเองก้าวลงจากท้ายรถสองแถว บรรยากาศของตัวจังหวัดยามย่ำค่ำพลุกพล่านพอสมควร เห็นนกบินกลับรังเป็นฝูง หวนมองตัวเองแล้วทอดใจในความโดดเดี่ยว คิดท้อแท้ในโชคชะตา นายสมนึกบอกกับตัวเองว่าต้องสู้ เกิดเป็นคนล้มแล้วต้องลุกอย่างที่พ่อของเขาเคยพร่ำสอน แต่ก่อนลุกควรหาอะไรรองท้องเสียก่อน

เดินมาถึงธนาคารอัตโนมัติ มือค่อยๆสอดบัตรสี่เหลี่ยมเข้าไปในช่อง ธนบัตรหนึ่งพันบาทไหลออกมาด้านล่าง ตามด้วยสลิปด้านบน แล้วจึงคืนบัตรให้นายสมนึก เขามองยอดเงินคงเหลือ แสนกว่าบาท ผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ สมบัติของพ่อที่ถูกแปรรูปเป็นเงินห้าล้านลดลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเห็นแล้วใจที่อุตส่าห์สงบก็อดหงุดหงิดโกรธแค้นไอ้ปีศาจขึ้นมาไม่ได้ เขาถอนหายใจแล้วเดินไปยังร้านข้าวมันไก่ใกล้ๆ

อาแปะ ข้าวมันไก่ไม่เอาหนังจานนึง

ขณะนั่งรอ นายสมนึกคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ชีวิตจะทำอะไรต่อไปดี เงินที่เหลืออยู่จะเอาไปลงทุนหรือเก็บไว้แล้วหางานทำ อายุขนาดนี้น่าจะหาแฟนสักคนได้แล้ว อยากมีครอบครัว แต่งงานมีลูก คิดไปคิดมาก็หวนกลับมายังเรื่องเดิม พ่อจะคิดอย่างไร เขาแย่แค่ไหน นานไหมกว่าจะลืมเรื่องนี้ได้ แล้วความคิดของเขาก็ถูกขัดจังหวะจากการประท้วงของกระเพาะอาหารที่ไม่มีอะไรให้ย่อยตั้งแต่เมื่อเช้า

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบกับต้นเหตุที่ทำให้อาหารไม่มาสักที อาแปะยืนนิ่ง มือขวาถืออีโต้ในท่าเตรียมสับในขณะที่ไก่ไร้วิญญาณนอนรอการแยกส่วน สายตาของชายแก่จับจ้องอยู่ที่โทรทัศน์เบื้องหน้า ในจอเป็นเทปบันทึกภาพการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศเมื่อสองเดือนก่อน ไม่รู้ด้วยความหิวหรือเพราะเจ้าของร้านไม่สนใจลูกค้าทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ลุกขึ้นมาตะโกนเสียงดัง จนคนทั้งร้านหันมามองเป็นตาเดียวกัน จับใจความเป็นภาษามนุษย์ได้ว่า

ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึงทำกูหมดตัวเกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้วมึงยังจะไม่ให้กูแดกข้าวอีก เหรอ ไอ้ปีศาจแดง! ”








Credit รูปภาพ http://images.elfwood.com/art/l/o/louisa08/angel_vs_devil.jpg

Read more >>